ทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก ต้องเจอความเปลี่ยนแปลงระดับมึนงง หลังเกมชนะ ทีมชาติมอลโดวา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้พวกเขาผ่านเข้ารอบสุดท้ายศึกยูโร 2024 เมื่อกุนซือใหญ่ ยาโรสลาฟ ซิลฮาวี ประกาศสละตำแหน่ง ขอลาออกแต่เพียงเท่านี้
เกมในกลุ่มอี เมื่อ 20 พ.ย. สาธารณรัฐเช็ก ไล่ถลุง มอลโดวา 3-0 ยืนยันการจบอันดับ 2 เข้ารอบสุดท้ายไปพร้อมกับ แอลเบเนีย
กระนั้นหลังจบเกม ซิลฮาวี กุนซือวัย 62 ปี ที่เข้ามาทำทีมเมื่อกันยายน 2018 และมีผลงานพาทีมเข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายในยูโร 2020 มาแล้ว (แพ้ เดนมาร์ก 1-2) กลับประกาศลาออกจากตำแหน่งทันที
“แม้เราจะมีความสุขกันในตอนนี้ แต่ผมก็ตัดสินใจเอาไว้ตั้งแต่ก่อนเกมแล้วว่า ผมจะไม่ไปต่อกับงานนี้”
“ผมได้แจ้งต่อประธานสมาคมฟุตบอลฯแล้วเช่นกัน ความกดดันในตอนนี้มันมหาศาลมาก บางครั้งผมก็ไม่เข้าใจมัน และสิ่งนี้มีผลต่อการตัดสินใจของเรา”
สำหรับ ซิลฮาวี ทำทีมสาธารณรัฐเช็กลงสนามรวม 56 นัด ชนะ 26, เสมอ 10 และแพ้ 20 เกม โดยนอกจากประสบความสำเร็จในยูโรหนก่อน ก็ถือว่าทำได้อย่างดีเยี่ยมในการพาทีมเข้ารอบสุดท้ายยูโร 2024 ครั้งนี้ ที่นับเป็นการเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์หนที่ 8 ติดต่อกันของพวกเขา ไม่นับรวมสมัยยังเป็น เชโกสโลวาเกีย
อย่างไรก็ตาม การทำทีมในช่วงหลังดูมีปัญหาภายใน โดยเขาเพิ่งตะเพิดนักเตะ 3 รายออกจากแคมป์ ก่อนเกมกับ มอลโดวา ข้อหาออกเที่ยวปาร์ตี้ไนต์คลับคืนวันเสาร์หลังจากเตะกับ โปแลนด์ (เสมอ 1-1) โดยหนึ่งในนั้นคือแข้งคนสำคัญอย่าง วลาดิเมียร์ คูฟาล แบ็กขวาจาก เวสต์แฮม ยูไนเต็ด