ฉลองรางวัลบัลลงดอร์สมัยที่ 8 "เมสซี่"! อาดิดาส จัดเต็ม ประมูลแหวนทองคำ พร้อมเปิดตัวรองเท้า X Crazyfast โทนสีใหม่

ฉลองรางวัลบัลลงดอร์สมัยที่ 8 "เมสซี่"! อาดิดาส จัดเต็ม ประมูลแหวนทองคำ พร้อมเปิดตัวรองเท้า X Crazyfast โทนสีใหม่

“อาดิดาสร่วมเฉลิมฉลองรางวัลบัลลงดอร์สมัยที่ 8 ของลิโอเนล เมสซี่ ด้วยการเปิดตัวแหวนทองคำ 14K คอลเลกชัน Championship จำนวน 8 วงเพื่อเปิดประมูล พร้อมเปิดตัวรองเท้า X Crazyfast โทนสีใหม่ล่าสุด”

อาดิดาส ร่วมเฉลิมฉลองรางวัลบัลลงดอร์สมัยที่ 8 ของลิโอเนล เมสซี่ ด้วยการเปิดตัวแหวนทองคำ 14K คอลเลกชัน Championship จำนวน 8 วง โดยแหวนแต่ละวงมีดีไซน์ที่แตกต่างกันเพื่อบอกเล่าเรื่องราวแห่งชัยชนะสู่เส้นทางการคว้ารางวัลบัลลงดอร์ในแต่ละสมัย โดยอาดิดาสได้วางแผนเปิดประมูลแหวนคอลเลกชันดังกล่าวในช่วงปลายปีนี้ เพื่อนำรายได้มอบให้แก่องค์กรการกุศลที่ถูกคัดเลือกโดยเมสซี่และอาดิดาสต่อไป
fw23_ballon_dor_messi_key_vis
เจาะลึกดีไซน์แหวนทั้ง 8 วงในคอลเลกชัน Championship

เรื่องราวความสำเร็จของลิโอเนล เมสซี่ สู่การเป็นนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของโลกถูกถ่ายทอดทุกรายละเอียดลงไปอย่างประณีตบนแหวนแต่ละวง โดยเริ่มจาก

2009 – El Beso

แหวนที่บอกเล่าเรื่องราวการคว้ารางวัลบัลลงดอร์ครั้งแรกของเมสซี่ พร้อมช็อตจูบรองเท้าฉลองชัยชนะรอบชิงชนะเลิศแชมเปียนส์ลีกในตำนานเมื่อปี 2009 ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่รองเท้า adidas F50i ของเขาหลุดออกในจังหวะกระโดดโหม่งครั้งที่สองของการทำประตูที่สอง และทำให้สโมสรบาร์เซโลนาสามารถคว้าชัยชนะในการแข่งขันกับสโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดที่สนามสตาดิโอ โอลิมปิโกได้สำเร็จ ทั้งนี้ บนตัวเรือนแหวนได้มีการประดับคำว่า Lionel Messi, Champions League Final และ Stadio Olimpico ล้อมรอบภาพ พร้อมกับการสลักคำว่า ‘El Beso’ และ #10 หมายเลขประจำตัวของเมสซี่บริเวณด้านข้างตัวเรือน

2010 – Apunta al cielo

แหวนวงนี้ถูกออกแบบเพื่อจารึกท่าประจำตัวสุดไอคอนิกของเมสซี่ กับการชี้นิ้วสองข้างขึ้นไปบนฟ้าหลังทำประตู เพื่อเป็นการอุทิศให้กับคุณย่าผู้ล่วงลับซึ่งมีบทบาทสำคัญในช่วงชีวิตวัยเด็กของเขา โดยแหวนดังกล่าวได้มีการสลักคำว่า ‘Apunta al cielo’ ซึ่งหมายถึงชี้ขึ้นไปบนฟ้าในภาษาสเปน พร้อมด้วยเลขโรมัน MMX ซึ่งหมายถึงปี 2010 และเลขโรมัน LX หรือเลข 60 ซึ่งหมายถึงจำนวนประตูที่เมสซี่ทำได้ในปี 2010 รวมถึงยังมีการตกแต่งภาพหรีดดอกไม้อันอ่อนช้อยจากตราสัญลักษณ์ประจำประเทศอาร์เจนตินาบ้านเกิดอีกด้วย

2011 – The G.O.A.T.

แหวนวงนี้สื่อถึงช่วงเวลาที่ผู้คนเริ่มขนานนามเขาว่าเป็น G.O.A.T (greatest of all time) หรือดีที่สุดตลอดกาล หลังจากที่เขาได้รับรางวัลบัลลงดอร์ต่อเนื่องเป็นสมัยที่สามในปี 2011 โดยแหวนวงนี้ตกแต่งด้วยรูปแพะยกสองขาหน้าจ้องมองพระอาทิตย์ขึ้น ล้อมรอบด้วยคำว่า ‘Lionel Messi. The Goat.’ พร้อมตอกย้ำความยิ่งใหญ่ด้วยตัวอักษร ‘G.O.A.T’ บริเวณด้านข้างของตัวเรือน เพื่อเฉลิมฉลองช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์นี้

2012 – El Año

แหวนวงนี้บอกเล่าการทำลายสถิติการทำประตูในปี 2012 ของเมสซี่ ด้วยเลข 91 ขนาดใหญ่ตรงกลาง รายล้อมด้วยลูกฟุตบอลจิ๋ว 91 ลูก ซึ่งเป็นจำนวนประตูที่เขาทำให้กับสโมสรและประเทศอาร์เจนตินาในปีนั้น โดยด้านข้างตัวเรือนยังมีการสลักคำว่า ‘El Año’ ที่เหล่าบรรดาแฟนฟุตบอลใช้เพื่อสื่อถึง ‘ปีของเมสซี่’ ที่เขาได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยจำนวนรวมการยิงประตูในปีเดียวมากที่สุดเท่าที่มีนักเตะคนไหนเคยทำมา
a3
2015 – La Cuarta Champions League

แหวนวงนี้สื่อถึงชัยชนะของการแข่งขันลีกยุโรปที่นักเตะทุกคนใฝ่ฝัน โดยมีการสลักถ้วยรางวัล 4 ถ้วยที่ด้านหน้าของตัวเรือนเพื่อสื่อถึงชัยชนะ 4 ครั้งในแชมเปียนส์ลีกที่เมสซี่คว้ามาให้สโมสรบาร์เซโลนา และยังมีการสลักเลขโรมันของทั้ง 4 ปี ได้แก่ 2006, 2009, 2011 และ 2015 พร้อมคำว่า ‘Campeón’ ที่ด้านข้างของตัวเรือนเพื่อสื่อถึงการเป็นผู้ชนะตัวจริงของเมสซี่

2019 – 6th European Golden Boot award

แหวนวงนี้ถูกสลักด้วยลวดลายรองเท้าฟุตบอลอาดิดาสจำนวน 6 คู่ บริเวณด้านหน้า ล้อมรอบด้วยลูกฟุตบอล 6 ลูก และคำว่า ‘IIIIII Bota de Oro Europea’ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองให้กับเมสซี่ในการคว้ารางวัลรองเท้าทองคำยุโรป (European Golden Boot award) เป็นสมัยที่ 6 ในปี 2019 นอกจากนี้ยังมีการสลักเลขแต่ละปีที่เขาได้รับรางวัลไว้ที่บริเวณขอบด้านบน ตลอดจนการสลักจำนวนประตูในลีกที่เขาทำได้ของแต่ละฤดูกาลที่เขาได้รับรางวัลที่บริเวณด้านข้างของตัวเรือน

2021 – The First International Trophy

แหวนวงนี้แสดงถึงความสำเร็จของเมสซี่ในการคว้าแชมป์โคปาอเมริกาในปี 2021 ในแมทช์ระหว่างอาร์เจนตินาและบราซิล โดยด้านหน้าของตัวเรือนประดับด้วย El Sol de Mayo – the May Sun สัญลักษณ์พระอาทิตย์ประจำชาติอาร์เจนตินา บนรูปทวีปอเมริกาใต้ ล้อมรอบด้วยชื่อเล่นของทีมชาติ ‘La Albiceleste’ ซึ่งแปลว่าสีขาวสลับฟ้าในภาษาสเปน

นอกจากนี้ วันแห่งชัยชนะ 10th July 2021 ยังถูกสลักไว้เป็นเลขโรมันที่ขอบของตัวเรือน ขณะที่ด้านข้างมีคำว่า ‘Campeón sudamericano’ ซึ่งหมายถึงแชมป์อเมริกาใต้ในภาษาสเปน รวมถึงสัญลักษณ์การจับมือจากตราประจำชาติที่ถูกสลักไว้เพื่อแสดงถึงความสามัคคีของทีมในการร่วมมือกันคว้าแชมป์โคปาอเมริกาสมัยที่ 15 กลับมายังบ้านเกิด ซึ่งถือเป็นชัยชนะครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1993

2023 – World Cup Winner

แหวนวงนี้ประดับด้วยดาวสามดวงที่ด้านหน้า สื่อถึงการที่เมสซี่เป็นแรงบันดาลใจให้กับอาร์เจนตินาในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกสมัยที่ 3 ณ ประเทศการ์ตา ในปี 2022 และยังส่งผลให้เขาคว้ารางวัลบัลลงดอร์ในปี 2023 จากผลการโหวตให้เขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดประจำทัวร์นาเมนต์ โดยแหวงวงนี้ยังได้มีการสลักคำว่า ‘Campeón del Mundo 2022’ ซึ่งหมายถึงแชมป์ฟุตบอลโลก 2022 ในภาษาสเปน ล้อมรอบดาวสามดวง พร้อมด้วยสัญลักษณ์คนชูถ้วยบริเวณสองข้างของตัวเรือน ซึ่งมาจากสัญลักษณ์คนยกโลกบนถ้วยฟุตบอลโลก
a2
ฉลองช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ ด้วยรองเท้าฟุตบอล X Crazyfast.1 Messi “El Ocho” pack

รองเท้าฟุตบอล X Crazyfast.1 Messi “El Ocho” pack ได้รับการปรับโฉมมาจากรองเท้า X Crazyfast รุ่นซิกเนเจอร์ของเมสซี่ โดยมาในโทนสีใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสีทองของถ้วยรางวัลบัลลงดอร์ พร้อมด้วยลวดลายลูกฟุตบอล 8 ลูก ซึ่งสื่อถึงการที่เมสซี่ได้รับการโหวตให้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดของโลกในแต่ละปี แทรกด้วยลายแพะสีทองที่อยู่บริเวณเชือกรองเท้า ตลอดจนลายพิมพ์นูนประโยค ‘El Mejor Del Mundo’ ซึ่งแปลว่ายอดเยี่ยมที่สุดในโลก ที่ถูกตกแต่งบริเวณด้านนอกของรองเท้าไว้อย่างสง่างาม

   
ทั้งนี้ องค์ประกอบอื่นของรองเท้ายังคงความโดดเด่นและประสิทธิภาพอันยอดเยี่ยมเช่นเดียวกับรองเท้ารุ่นที่เมสซี่สวมลงสนามทุกประการ ไม่ว่าจะเป็น พื้นรองเท้าชั้นนอก โครงสร้างลิ้นรองเท้า และอัปเปอร์ที่ให้สัมผัสยืดหยุ่น ซึ่งถึงแม้ว่ารองเท้า X Crazyfast.1 Messi “El Ocho” pack จะไม่มีการวางจำหน่ายในไทย แต่นักเตะชาวไทยก็สามารถสัมผัสประสิทธิภาพนี้ได้ในรองเท้ารุ่น X Crazyfast สีอื่นๆ เช่นเดียวกัน
a1ร่วมพูดคุยและติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook www.facebook.com/adidasTH  และ Instagram @adidasthailand และ @adidasfootball หรือที่แฮชแท็ก #adidasfootball และ #adidasThailand