กลายเป็นเรื่องฮือฮาทันทีเมื่อ ซู ซิหมิง กำปั้นชาวจีน อดีตแชมป์โลกฟลายเวต องค์กรมวยโลก (WBO) ออกมาเปรยว่าพร้อมคืนสังเวียนอีกครั้งในวัย 43 ปี ภายในปีหน้า
โดย อดีตเจ้าของ 2 ทองโอลิมปิก หันหลังให้กับวงการไปเมื่อปี 2018 หลังเสียแชมป์ให้กับ โช คิมูระ นักชกชาวญี่ปุ่น ในสภาพที่บอบช้ำแบบสุดๆ ก่อนที่จะโดนจับแพ้ในยกที่ 11
ซึ่งหลังไฟต์ เจ้าตัวมีอาการมองเห็นไม่ชัดก่อนไปพบแพทย์ ซึ่งผลตรวจชี้ว่าดวงตาข้างซ้ายบอบช้ำหนัก ทางแพทย์ออกมาชี้ว่าเจ้าตัวอาจต้องสูญเสียการมองเห็นหากยังฝืนชกต่อจนสุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจอำลาสังเวียน
อย่างไรก็ตามล่าสุด ซู ซิหมิง ที่ผันตัวมาประกอบธุรกิจฟิตเนส ZBOXING ได้กล่าวในงานประชุมผู้ประกอบการธุรกิจของ China Business Leaders พร้อมชี้ว่าการทำธุรกิจเป็นเรื่องที่ยากกว่าการชกมวย
นอกจากนี้เจ้าตัวยังสร้างความตกใจให้กับแฟนๆ ด้วยการมีแผนที่จะหวนคืนสังเวียนอีกครั้งภายในปีหน้า “แม้ผมจะตัดสินใจแขวนนวมมานานหลายปีแล้ว แต่ผมยังมีความฝันที่จะได้ขึ้นชกมวยอีกครั้ง ผมจะไม่ปิดกั้นโอกาสใดๆ ในปี 2025 แล้วเราจะได้พบกันบนสังเวียนกำปั้น”
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ ซู ซิหมิง มีแผนที่จะคืนสังเวียน สื่อในบ้านเกิดคาดว่าเจ้าตัวนั้นประสบปัญหาทางด้านการเงินเนื่องจากธุรกิจ ZBOXING การออกกำลังกายด้วยการชกมวยไม่ได้รับความนิยมตามที่คาดไว้
นอกจากนี้ หราน อิ๋งอิ๋ง ภรรยาของเจ้าตัวก็เคยออกมาเผยว่าได้ทำการขายทรัพย์สินมากมายทั้งบ้าน และรถยนต์ หลังจากธุรกิจที่ทำมาในช่วง 7 ปี ประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนัก
สำหรับซู ซิหมิง ถือเป็นนักชกขวัญใจของชาวจีน เมื่อสามารถคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ได้ถึง 2 สมัย (2008 และ 2012) ก่อนที่จะเบนเข็มมาชกอาชีพ เมื่อปี 2013
ซึ่งชื่อของเจ้าตัวเป็นที่คุ้นหูแฟนชาวไทยหลังเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน แก้ว พงษ์ประยูร แบบค้านสายตาทั่วโลก ในการแข่งขันชกมวย โอลิมปิก เกมส์ 2012 นัดชิงเหรียญทอง