ริยาห์ มาห์เรซ ปีกทีมชาติ แอลจีเรีย ร่ายยาวถึงสาเหตุที่ตนตัดสินในย้ายออกจาก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปร่วมทัพ อัล-อาห์ลี ใน ซาอุดิโปรลีก เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา
แข้งวัย 32 ปี เซ็นสัญญากับ อัล-อาห์ลี จนถึง มิถุนายน 2027 ด้วยค่าตัว 30 ล้านปอนด์ เมื่อกลางเดือน กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยเจ้าตัวยืนยันว่ามันเป็นการตัดสินใจของเขาเองสำหรับการย้ายทีมครั้งนี้
“สัญญาของผมกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหลืออีกสองปี ผมมีโอกาสที่จะอยู่ที่นั่นต่อไปอีกก็ได้” มาห์เรซ บอกกับ เลกิ๊ป
“มันเป็นผมเองที่ตัดตัดสินใจย้ายออก ผมรู้สึกว่าโอกาส (ย้ายไปร่วมทีม อัล-อาห์ลี) คงจะไม่กลับมาอีกแล้ว บางทีมันอาจถึงเวลาที่ต้องย้ายออก เพราะผมอยู่ที่ ซิตี้ มาห้าปี และคว้าแชมป์มาหมดแล้ว”
“ว่ากันตรง ๆ เลย ผมยังมีความรู้สึกว่างานของผมยังไม่เสร็จ อย่างใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ผมไม่ได้ลงเล่นในรอบรองชนะเลิศ หรือ รอบชิงชนะเลิศ”
“ในฤดูกาลก่อน ๆ ผมมักจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเสมอใน แชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งก็สร้างผลกระทบในเชิงบวกให้กับทีมได้อยู่เสมอ”
“เมื่อปีที่แล้ว ผมไม่สามารถพูดได้ว่ามันแย่ แต่ผมมีความรู้สึกเล็ก ๆ ว่า งานของผมมันยังไม่เสร็จ”
“ผมได้รับข้อเสนอสี่ปีจาก ซาอุดีอาระเบีย, ผมสามารถปกป้องและมอบสิ่งที่เอื้ออำนวยให้กับครอบครัวของผมได้ในประเทศ มุสลิม”
“นอกจากนี้ ยังมีความท้าทายใหม่และโปรเจกต์ใหม่อีกด้วย ดังนั้น ผมก็เลยตัดสินใจย้ายออก ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร”
“ซิกิ เบกิริสไตน์ (ผู้อำนวยการกีฬา) และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า อยากให้ผมอยู่ต่อจริง ๆ พวกเขาชัดเจนกับผม ผมชั่งน้ำหนักทั้งข้อดีและข้อเสีย และในที่สุดผมก็ตัดสินใจย้ายทีม ผมไม่เสียใจ ผมมีความสุขที่ได้มาอยู่ที่นี่”
สำหรับ มาห์เรซ ลงเล่นให้กับ อัล-อาห์ลี ไปแล้ว 14 นัดในทุกรายการ ทำไป 6 ประตู กับอีก 7 แอสซิสต์