ลิเวอร์พูล สโมสรยักษ์ใหญ่แห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ภายใต้การนำของ เยอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ที่เริ่มนับถอยหลังอำลารั้วแอนฟิลด์นั้น ยังคงทำผลงานได้ตามเป้าหมายเช่นเคยหลังเปิดบ้านไล่ถล่ม นอริช ซิตี้ ในศึกเอฟเอ คัพ รอบสี่ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไปแบบสบายๆ 5-2
ก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้นไม่น่าแปลกใจเลยที่ คล็อปป์ จะกลายเป็นจุดสนใจสำคัญก่อนเกมหลังจากที่ตัดสินใจประกาศลาตำแหน่งนายใหญ่หงส์แดงหลังซีซันนี้จบลง และมันเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจ เนื่องจากเจ้าตัวได้คุมทีมเผชิญหน้ากับ เดวิด วากเนอร์ กุนซือทีมนกขมิ้น ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกันมาอย่างยาวนาน
ในเกมนี้ สิ่งที่มองข้ามไม่ได้คือ 2 นักเตะจากอคาเดมีอย่าง เจมส์ แม็คคอนเนลล์ และ คอนอร์ แบรดลีย์ ที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยม และดูเหมือนว่า พวกเขาทั้งคู่จะกลายเป็นมรดกล้ำค่าที่ คล็อปป์ ทิ้งไว้ให้ก่อนจะอำลาสโมสร
แม็กคอนเนลล์ เพิ่งได้โอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของ ลิเวอร์พูล เป็นเกมที่ 4 และถือเป็นเกมแรกที่เจ้าตัวได้ออกสตาร์ทเป็นตัวจริง และอยู่ในสนามนานที่สุด โดยก่อนหน้านี้ มิดฟิลด์วัย 19 ปี มักจะถูกส่งลงสนามมาเป็นตัวสำรอง
สำหรับ แม็คคอนเนลล์ มันเป็นการเริ่มต้นที่สุดยอดหลังจากเป็นคนแอสซิสต์แบบเหนือชั้นจากแนวลึกให้ เคอร์ติส โจนส์ โหม่งประตูขึ้นนำในนาทีที่ 16 และตลอดทั้ง 80 นาที เจ้าตัวก็ช่วยตัดเกม และควบคุมเกม รวมถึงจ่ายบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ขณะที่ แบรดลีย์ แสดงให้เห็นแล้วว่า พร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีมแล้ว หลังจากแสดงให้เห็นถึงคุณภาพในการเล่นเกมรับ-เกมรุก และประสานงานกับเพื่อนร่วมทีม โดยเกมนี้ แบ็กขวาวัย 20 ปี ทำไป 2 แอสซิสต์ และยังได้รับรางวัลแมน ออฟ เดอะ แมตช์ อีกด้วย
นอกจากนี้ ลิเวอร์พูล ยังมีข่าวดีหลังจากบรรดาผู้เล่นตัวหลักอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ็กซ้ายทีมชาติสก็อตแลนด์, เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวารองกัปตันทีม และ โดมินิค โซบอสซ์ไล มิดฟิลด์ทีมชาติฮังการี กลับมาลงสนามได้แล้ว
ส่วนแนวรุกคนอื่นๆก็ยังคงไว้ใจได้แม้ไม่มี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ปีกชาวอิยิปต์ในสนาม เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บเอ็นร้อยหวาย ดังนั้น โดยผู้เล่นอย่าง โคดี กัคโป, ดาร์วิน นูเญซ และ ดิโอโก โชตา ก็พยายามเค้นฟอร์มการเล่นของตัวเองออกมาอย่างเต็มที่
ในเกมนี้ นูเญซ แสดงให้เห็นแล้วว่า พร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นตัวเลือกแรกในแดนหน้า หลังซัดประตูได้แบบเฉียบขาด และดูจะเข้าใจหน้าที่ของตัวเองมากขึ้น ขณะที่ โชตา ก็ยังไว้ใจได้เสมอในการจบสกอร์หลังซัดไป 1 ลูก ส่วน กัคโป มีส่วนร่วมกับเกมมากพอสมควร
ในเกมเอฟเอ คัพ รอบต่อไป ลิเวอร์พูล จะเปิดบ้านรอพบผู้ชนะระหว่าง วัตฟอร์ด หรือ เซาธ์แฮมป์ตัน แต่ตอนนี้ความสำคัญมุ่งเป้าไปที่เกมลีก 2 นัดต่อไปที่จะเปิดบ้านพบกับ เชลซี ที่กำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรง ต่อด้วยการบุกไปเยือน อาร์เซนอล ที่เอมิเรตส์ สเตเดียม ในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็น 2 เกมชี้ชะตาของหงส์แดงเลยก็ว่าได้