“รักษ์ เอราวัณ” เดินเครื่องเต็มสูบ ขอจัดหนัก “ชูโต ซาโตะ” คู่ชกจากแดนอาทิตย์อุทัย เพื่อพิชิตโบนัสหนที่สาม นำมาเก็บไว้ใช้เป็นทุนการศึกษาต่อในระดับปริญญาโท
“รักษ์ เอราวัณ” จอมบู๊ขาลุย วัย 22 ปี จากปัตตานี เตรียมปะทะคู่ชกชาวต่างชาติครั้งแรกในชีวิต โดยจะพบกับ “ชูโต ซาโตะ” นักสู้พลังเดือด วัย 26 ปี จากญี่ปุ่น ในกติกามวยไทย พิกัดเฉพาะ (แคตช์เวต) 116 ป. ในศึก ONE ลุมพินี 56 ที่จะถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) ในวันศุกร์ที่ 22 มี.ค.นี้
“รักษ์” เปิดตัวใน ONE ลุมพินี ได้อย่างร้อนแรง จากการเก็บชัยแบบไม่ครบยก พร้อมคว้าโบนัสได้ 2 ไฟต์ติดต่อกัน ก่อนจะยกระดับความฮอตของตัวเองขึ้นไปอีกขั้นในไฟต์ล่าสุด ที่เปิดฟลอร์แลกเดือดกับนักชกฟอร์มร้อนอย่าง “ทรงชัยน้อย เกียรติทรงฤทธิ์” ได้อย่างสนุกสุดมันตลอดทั้ง 3 ยก ก่อนจะแพ้คะแนนไปแบบชนะใจคนดูทั่วทั้งประเทศ
“ชกกับ ทรงชัยน้อย วันนั้นยอมรับว่าสนุกมาก มันมากครับ ตอนโดนกดนับไปสองครั้ง เอาจริงๆ ผมไม่รู้สึกใจเสียเลย เพราะยังมั่นใจว่าจะพลิกกลับมาได้ และในยกสองผมก็กลับมาได้จริงๆ แต่โดยรวมแล้วก็ยังไม่พอใจฟอร์มเท่าไหร่ เพราะผมหยุดไปนาน ทำให้จังหวะออกอาวุธ ยังทำได้ไม่แม่นเท่าที่ควร และช่วงท้ายก็เร่งไม่ขึ้นด้วยครับ”
แม้จะมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ จากการโชว์ฝีมือในศึก ONE ลุมพินี แต่ “รักษ์” ที่ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นปีที่ 1 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตยะลา ก็ไม่ขอทิ้งการเรียน โดยยังมีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะศึกษาต่อให้จบ โดยหวังใช้เงินที่ได้รับจากการชกมวย มาใช้สมทบทุนศึกษาในระดับที่สูงขึ้นต่อไป เพื่ออนาคตที่สดใสของตัวเอง
“ผมตัดสินใจส่งตัวเองเรียนตอนช่วงเข้าปี 1 เพราะไม่อยากรบกวนทางบ้าน ผมอยากเข้ามาชกใน ONE ลุมพินี ให้ได้บ่อยที่สุดเพื่อนำค่าตัวที่ได้ส่งตัวเองเรียนให้จบ และถ้าไฟต์นี้ได้โบนัสอีก นอกจากจะเก็บไว้เป็นทุนการศึกษาสำหรับเรียนต่อปริญญาโทแล้ว ผมจะเก็บไว้ใช้ทำธุรกิจส่วนตัวในอนาคต ควบคู่กับการชกมวยไปด้วยครับ”
ไฟต์ต่อไป “รักษ์” จะต้องเผชิญหน้ากับบททดสอบครั้งสำคัญ อย่าง “ชูโต ซาโตะ” นักสู้จากญี่ปุ่น ที่ตั้งเป้าจะมาเปิดตัวให้กระหึ่มที่สุด และถึงจะเป็นครั้งแรกที่ “รักษ์” จะได้วัดฝีมือกับนักชกต่างชาติ แต่เจ้าตัวก็มั่นใจในกระดูกมวยที่สั่งสมมานานกว่า 12 ปี ว่าจะช่วยให้เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะไปได้ในไฟต์นี้
“ถึงผมจะไม่เคยเจอคู่ชกต่างชาติมาก่อน แต่ผมไม่กังวลอะไร เพราะถ้ามองในเรื่องความเป็นมวย เขาน่าจะยังเป็นรองผมอยู่ เขาอาจจะได้เปรียบเรื่องความแข็งแรงมากกว่า แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่สำหรับผมครับ”
“ส่วนรูปเกมในไฟต์นี้ ผมจะออกมาเดินแลกแข้งแลกหมัดให้แฟนๆได้เห็นกันอย่างจุใจแน่นอน ผมรับประกันได้เลยว่าจะต้องสนุกสุดมันถูกใจทุกคน และน่าจะจบลงแบบไม่ครบยกด้วยครับ เพราะเมื่อไหร่ที่ผมได้ขึ้นเวทีไปแล้ว ผมพร้อมใส่สุดเสมอ เพื่อให้ทุกคนได้ดูมวยที่สนุกที่สุดครับ”
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR และติดตามรับชมการถ่ายทอดสดผ่านทาง Watch.ONEFC.com (บางประเทศ), Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ) เริ่มคู่แรกเวลา 19:30 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง ช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20:30 น. รวมทั้งติดตามข่าวสารและความคืบหน้าของ ONE ได้ที่เฟซบุ๊ก ONE Championship Thailand, เว็บไซต์ ONEFC.com และอินสตาแกรม ONEChampTh